วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

National History Museum

มาถึงอีกหนึ่งพิพิธภัณฑ์ไฮไลท์เด็ดในลอนดอนไม่แพ้ที่ British Museum เลยที่ National History Museum พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสต์ทางธรรมชาติที่เราจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับวิวัฒนาการ กำเนิดมนุษย์และสัตว์ต่างๆ รวมถึงไดโนเสาร์กันด้วย

มาง่ายๆ ด้วยรถไฟใต้ดินสถานี South Kensington ทางออกพิพิธภัณฑ์... เดินตามป้ายบอกทางตามแผนที่ไป 5 นาที

สถานี South Kensington

National History Museum ตัวอาคารใหญ่โต สวยงามจริงๆ ต้องแวะถ่ายรูปกันก่อนเข้า ที่นี่เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน 10.00 - 17.50 น.ยกเว้นช่วงคริสต์มาสต์ 24-26 ธันวาคมของทุกปี คนค่อนข้างเยอะทีเดียว ต้องต่อคิวกันซักประมาณ 15 นาที

แผนที National History Museum

เริ่มตะลุยจากทางเข้าโซนสีแดง ฝั่งวิทยาศาสตร์ โลกวิทยากันก่อน เดินขึ้นบันไดเลื่อนเข้าสู่ใจกลางโลกกันเลย

ความรู้โซนนี้ เกี่ยวกับความร้อนใต้พิภพ ลาวา ภูเขาไฟระเบิด

หุ่นจำลองจากเหตุการณ์ภูเขาไฟวิสุเวียสระเบิดที่เมืองปอมเปอี อิตาลีเมื่อปี ค.ศ.79

Heatsuit กันความร้อนได้มากถึง 1,000 C

ระดับความรุ่นแรงของแผ่นดินไหวตามมาตราริคเตอร์

10 อันดับแผ่นดินไหวที่รุ่นแรงที่สุดตั้งแต่ปี 1900 จะเป็นได้ว่าเหตุการณ์ซึนามิจากแผ่นดินไหวที่เกาะสุมาตราที่อินโดนีเซียเมื่อปี 2004 คร่าชีวิตผู้คนไปมากที่สุด 2 แสนกว่าคน RIP

จากนั้นก็มาถึงห้องจำลองแผ่นดินไหว อันนี้เป็นเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่โกเบในญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ.2538 เค้าจะให้เราเข้าไปยืนในห้องจากนั้น ห้องจะสั่นจากแรงแผ่นดินไหวระดับ 7.2 ริคเตอร์ ของนี้ หล่นลงมาเกลี้ยงเลย

จากโซนโลกสีแดง ก็ไปสู่โซนของสารพัดสัตว์กันบ้าง เริ่มจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม

เค้าจะนำสัตว์ต่างๆ จากทั่วโลกที่ตายไปแล้วนำมาสตั๊ฟฟ์ให้เราได้ชมกันอย่างใกล้ชิด หลายร้อยตัวทีเดียว

นกโดโด้ (Dodo) นกท้องถิ่นที่พบในหมู่เกาะมอริเชียส มหาสมุทรอินเดีย ปัจจุบันสูญพันธุ์ไปแล้ว

อีแร้งหลากหลายสายพันธุ์ ตัวใหญ่มาก Wingspan เกือบๆ 2 เมตร

จากนั้นจะเข้าสู่ห้องเก็บฟอสซิลของสัตว์ต่างๆ เค้าจะนำมาแปะผนังใส่กระจกไว้

โครงกระดูกของตัวสล็อตโบราณ ใหญ่มาก สูงเกือบๆ 5 เมตร

ซากฟอสซิลไดโนเสาร์ ที่หลายๆ คนคิดว่าเป็น Sea Monster พันธุ์นี้ คือ Plesiosaurus ซึ่งคนที่ค้นพบคือ Mary Anning หญิงชาวอังกฤษผู้มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ซึ่งเธอค้นขุดพบบริเวณ Blue Lias Cliff ในปี 1833

ฟอสซิลนี้ เห็นครั้งแรกนึกว่าจระเข้ แต่จริงๆแล้ว มันคือ ปลาโลมา!!

ส่วนฟอสซิลจระเข้ของจริงอยู่ตรงนี้ เดินๆ ดูแล้ว สัตว์โบราณตัวใหญ่มากอ่ะ

จากนั้น เข้าสู่บริเวณ Hintze Hall กัน ตรงจุดนี้นี่เป็นจุดขายของพิพิธภัณฑ์ที่นี่เลย เพราะเราจะเห็นโครงกระดูกไดโนเสาร์คอยาวตัวใหญ่ตั้งอยู่ท่ามกลางบรรยากาศของตัวอาคารที่ออกแบบสไตล์โบสถ์ ไดโนเสาร์พันธุ์นี้ คือ Diplodocus

มีชื่อเล่นด้วยนะว่า Dippy ที่ทุกคนต้องรุมเซลฟี่กันไม่หยุด 55

เดินขึ้นบันไดไปยังชั้นบน ตรงชั้นลอยจะมีรูปปั้นของ ชาร์ล ดาร์วิน บิดาแห่งพันธุศาสตร์

มุมมองจากชั้นบนสุด คนเยอะทีเดียว ตรงจุดนี้ เราจะเห็นคนเข้าคิวรอบ Dippy เพื่อรอเข้าชมห้องฟอสซิลไดโนเสาร์กัน เดี๋ยวเราจะชมกันตอนคนเริ่มซาแล้ว ไปชมตรงส่วนอื่นๆ กันก่อน

ชั้นบนสุดนี้ เราจะพบกับต้นไม้ต้นหนึ่งที่ถูกตัดผ่าแนวขวาง


มันคือต้น Giant Sequoia (ต้นซีกัวยายักษ์) อายุเก่าแก่กว่า 1,300 ปี ต้นไม้ชนิดนี้ ถือว่าเป็นต้นไม้ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยต้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั้น ชื่อว่า General Sherman สูง 83.8 เมตร เส้นรอบวง 31.3 เมตร อยู่ที่ California Sequoia National Park

แล้วก็เดินลงมาชมห้องอื่นๆ กันต่อระหว่างที่คิวยังยาวอยู่ ไปกันที่โซนสีม่วงใกล้ๆ กับห้องไดโนเสาร์

ห้องนี้จะมีหุ่นจำลองของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเท่าของจริงให้เราได้ยืนลองเทียบดูด้วย

โดยสัตว์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลกคือ ปลาวาฬสีน้ำเงิน ที่เคยค้นพบกันมานั้น ยาวถึง 31.2 เมตร หนัก 200 ตัน แค่ลิ้นอย่างเดียวก็หนักเท่ากับช้าง 1 ตัวเลย โอ้วววว.

ชมกันไปเรื่อยๆ โครงกระดูกแรดโบราณ


ตู้โชว์สัตว์สตัฟฟ์ของจริง



จากนั้นก็สมควรแก่เวลาแล้ว เดี๋ยวจะปิดซะก่อน มาเข้าคิวต่อกันเพื่อชมห้องฟอสซิลไดโนเสาร์ คนเริ่มบางลงแล้ว

ห้องด้านในจัดให้เดินชมแบบ One-way ไหลกันไปเรื่อยๆ ห้ามหยุดนานเพราะคนเยอะจ้า

ตัวนี้ ชอบมาแต่เด็กๆ 3 เขา Triceratop มาเห็นโครงกระดูกของจริงที่นี่เลย ตื่นเต้นนนน.

โครงกระดูกไดโนเสาร์หลากหลายพันธุ์จะถูกนำมาตั้งหรือแขวนไว้ แล้วให้บรรดานักท่องเที่ยวเดินชมตามสะพานแขวนไปเรื่อยๆ

Stegosaurus ไดโนเสาร์กินพืชยุคปลาย Jurassic โดดเด่นด้วยเกราะกระเบื้องเท่ๆ

แก๊งส์ Raptor ตัวเล็กแต่ไวมาก ทำงานเป็นทีม มาเร็วเคลมเร็ว เหยื่อตายแบบไม่รู้ตัว

หัวกะโหลกเทียบกันระหว่างคู่ปรับ T-Rex และ Triceratops

เดินชมกันมาเรื่อยๆ ปิดท้ายที่ห้องนี้ แสงสีเสียงหลอกเด็กนิดนึงกับพี่ T-Rex ขยับเขยื้อนส่งเสียงคำรามลั่นเลย แนะนำเลยสำหรับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยวอังกฤษ National History Museum นี่พลาดไม่ได้เด้อ
เช็คราคาและห้องว่างโรงแรมใน London คลิกที่นี่