วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2557

Tower of London

มาถึงลอนดอนแล้วไม่มา หอคอยลอนดอน (Tower of London) ก็กระไรอยู่ Tower of London นี้ ตั้งอยู่ริมแม่น้ำเทมส์ เชิงสะพาน Tower Bridge สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าวิลเลียม ในปีค.ศ.1078 หรือกว่าพันปีที่แล้ว เพื่อเป็นที่ประทับของกษัตริย์หลายๆ พระองค์ จนถึงสมัยพระเจ้าเจมส์ที่ 1 ที่เป็นกษัตริย์องค์สุดท้ายที่ประทับที่นี่ ในช่วงศตวรรษที่ 16 ก็มีการย้ายพระราชวังไปที่พระราชวังเวสมินสเตอร์ (อาคารรัญสภา Paliament ในปัจจุบัน)


มาง่ายๆ ด้วยรถไฟใต้ดินสถานี Tower Hill หรือ รถเมล์สาย 15 ลงป้าย Tower of London

สามารถมองเห็น Tower of London ได้ ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์เลย

ซื้อตั๋วเข้าชมกันก่อน ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 22 ปอนด์ เด็ก 5-15 ปี 11 ปอนด์
(London Pass ฟรี) เปิดให้เข้าชม
1 มีนาคม - 31 ตุลาคม อังคาร - เสาร์ 9.00 -17.30 น.
อาทิตย์และจันทร์ 10.00 -17.30 น.
1 พฤศจิกายน - 28 กุมภาพันธ์ อังคาร - เสาร์ 9.00 -16.30 น.
อาทิตย์และจันทร์ 10.00 -16.30 น.

แผนที่ภายใน Tower of London


ทางเข้าด้านหน้าฝั่งแม่น้ำเทมส์สำหรับกรุ๊ปทัวร์

ถ้าเรามากันเองก็เข้าทาง Middle Tower

ตรงทางเข้านี้ จะมี Yeoman Warders (Beefeaters) เดิมนั้นเป็นทหารรักษาพระองค์ แต่ปัจจุบันทำหน้าทีเป็นไกด์ให้คำแนะนำแก่นักท่องเที่ยว ใครมาถึงก็ต้องมาขอถ่ายรูปคู่กับลุงเค้าหล่ะ ตอนนี้ เค้าก็มีทัวร์พาเที่ยวโดยคุณลุง Yeoman ทุก 30 นาที ใช้เวลาประมาณ 60 นาที หลังจากที่ซื้อตั๋วเข้ามาแล้ว ก็สามารถมารวมตัวเพื่อจะเดินไปชมกับทัวร์ฟรีจากคุณลุงได้เลย รอบสุดท้ายประมาณ บ่ายสามโมงครึ่ง

จุดแรกที่เข้ามาจะพบกับ หอคอยสีเลือด (Bloody Tower) เรื่องราวมีอยู่ว่า เมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เสด็จสวรรคต พระโอรสคือพระเจ้าเอ็ดเวิร์อที่ 5 ซึ่งมีพระชนม์ 13 พรรษาได้ขึ้นครองราชย์แทน ระหว่างนั้น อังกฤษอยู่ในช่วงสงครามกลางเมือง ประชาชนไม่ต้องการกษัตริย์ที่ยังเป็นเด็ก พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 จึงถอดถอนพระโอรสของพระองค์ออกจากตำแหน่ง แล้วสถาปนาตัวเองเป็นกษัตริย์ริชาร์ดที่ 3 แทน จากนั้นจึงนำตัวพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระอนุชาดยุคแห่งยอร์คที่มีพระชนม์เพียง 11 พรรษาไปคุมขังไว้ที่ Bloody Tower จนไม่มีใครพบเห็นอีกเลย จนอีก 200 ปีต่อมา เมื่อมีการบูรณะหอคอย ได้มีคนมาค้นพบโครงกระดุกเด็ก 2 โครง

ใกล้ๆ กันนั้น จะมี ประตูคนทรยศ (Traitors' Gate) เป็นประตูสำหรับนำนักโทษ ผ่านเข้าออกจากแม่น้ำเทมส์มาคุมขังไว้ แต่ก็มีบางคนที่สามารถหลบหนีได้จากประตูนี้เช่นกัน

เมื่อเดินเข้ามาถึงกำแพงด้านใน Tower of London จะสามารถเดินขึ้นบันได ไปชมวิวบนริมรั้วรอบนอกได้อีกด้วย

มุมมองกำแพงและรั้วจาก White Tower



จากนั้นเข้ามาสู่บริเวณของ Queen's House จะเห็นอาคารรูปทรงทิวดอร์ เรียงรายกันอยู่
ส่วนต่อมาเป็น Tower Green ส่วนที่เรียกได้ว่า น่ากลัวสยองขวัญที่สุด เพราะเป็นลานประหารชีวิตชนชั้นสูงหลายคน อาทิเช่น พระนางแอนน์ โบลีน (Anne Boleyn) พระชายาองค์ที่ 2 ของพระเจ้าเฮนรี่ที่ 8 ถูกประหารด้วยข้อหาคบชู้ และเลดี้ รัชฟอร์ด นางนกต่อก็ถูกตัดคอที่นี่ ส่วนศีรษะถูกนำไปเสียบประจานไว้ที่สะพาน London Bridge

อุปกรณ์ที่ใช้ในการประหาร
หลังจากเรื่องราวความโหดร้าย มาชมอะไรงามๆ กันบ้างที่ Waterloo Barracks จะเห็นได้ว่า มีคนเข้าคิวยาวกันเต็มเพื่อที่จะชม Imperial State Crown ใน Jewel House ซึ่งมงกูฎนี้ เป็นมงกุฎราชพิธี มีเพชรประดับถึง 3,000 เม็ดด้วยกัน

มีทหารองครักษ์เฝ้ารักษาความปลอดภัยเหมือนเดิม

ต่อแถวเข้าคิวกันประมาณ 15 นาที

Imperial State Crown นี้ ใช้ในพิธีราชาภิเษก ขึ้นครองราชย์ของพระเจ้าจอร์จที่ 6 และพระราชินีอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ (ด้านในห้ามถ่ายรูป รูปประกอบจากอินเตอร์เน็ต)

มาถึงส่วนหลักของ Tower of London ที่ White Tower

White Tower แห่งนี้ เป็นหอคอยที่เก่าแก่ที่สุดในอังกฤษ มีอายุกว่า 900 ปี ด้านในมี Chapel of St.John และพิพิธภัณฑ์ชุดเกราะอัศวิน คลังอาวุธในสมัยก่อนที่หาชมได้ยากมากมาย โดยนำมาจากเมือง Leads และ Portsmouth

เพื่อนๆ คนไหนที่ชื่นชอบหนังแนวอัศวิน โบราณ รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน เพราะมีให้ชมมากมายจริงๆ

แม้แต่เกราะของม้าก็ยังมี เห็นจากขนาดแล้วคนโบราณตัวใหญ่มาก

ชุดเกราะที่จัดแสดง เริ่มตั้งแต่สมัยกลางจนถึงประมาณปีค.ศ.1914 แบ่งเป็นห้องๆ ให้ชมกันตั้งแต่ชั้นล่างถึงบน



ส่วนจุดนี้เป็นจุดแสดงนิทรรศการที่ชั้นบน ให้เราลองสวมหมวกเกราะอัศวินแล้วส่องดูว่า จะสามารถมองเห็นด้านนอกได้แค่ไหน (รูเล็กมากอ่ะ เพราะเค้าต้องป้องกันดวงตาจากปลายหอกปลายดาบ)

จากชั้นบนเดินวนลงสู่ชั้นล่างสุดจะเป็นโซนอาวุธยุทโธปกรณ์ ปืนใหญ่ ปินเล็กในสมัยโบราณ

เที่ยวชมกันเสร็จแล้วก็ได้เวลาช้อปปิ้งของที่ระลึกกัน มีให้เลือกกันเยอะแยะตามใจชอบ

ส่วนใหญ่เป็นแนวอัศวิน


เที่ยวชมกันเต็มอิ่ม คนก็เยอะตลอดๆ ไปเดินด้านนอกกันต่อ

เดินออกมาตรงประตูทางเข้าเดิม เลาะเลียบริมกำแพงจะมีลานขายของอยู่ ตรงนี้ จะมีอาวุธโบราณสมัยก่อน คือ เครื่องโยนหินตั้งโชว์อยู่ ความแรงของมันสามารถโยนหินข้ามกำแพงออกมาได้อย่างสบายๆ

ฝรั่งนิยมมานั่งเล่นปาร์ตี้กันด้านนอก มีเบอร์เกอร์ ฮอทดอกขาย ซื้อทานรองท้องกันได้

ส่วนใครที่อยากแต่งกายย้อนยุคก็สามารถมาร่วมสนุกกันได้


เช็คราคาและห้องว่างโรงแรมใน London คลิกที่นี่